รายได้เกิน 1.8 ล้านบาท ต่อปี ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ?
เราก็ต้องจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่ม ทีนี้เราก็มาดูกันต่อว่า สิ่งที่เราต้องทำหลังจากที่เราเป็นผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่ม มีอะไรบ้าง
1. เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ซื้อสินค้า หรือผู้รับบริการจากเรา จากมูลค่าสินค้า หรือบริการ
(ณ ปัจจุบันมีประกาศลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มรวมภาษีท้องถิ่นจาก 10% เหลือ 7%
(ณ ปัจจุบันมีประกาศลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มรวมภาษีท้องถิ่นจาก 10% เหลือ 7%
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม2567 ถึง วันที่ 30 กันยายน 2568)
2. ออกใบกำกับภาษี โดยในตัวใบกำกับภาษีนั้น สรรพากร ได้กำหนดรายการที่ต้องมีดังนี้
- ให้มีคำว่า "ใบกำกับภาษี" อยู่ในเอกสารที่เราออก
2. ออกใบกำกับภาษี โดยในตัวใบกำกับภาษีนั้น สรรพากร ได้กำหนดรายการที่ต้องมีดังนี้
- ให้มีคำว่า "ใบกำกับภาษี" อยู่ในเอกสารที่เราออก
- ชื่อ ที่อยู่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร และสาขา ของผู้ประกอบการจดทะเบียน ที่ออกใบกำกับภาษี
- ชื่อ ที่อยู่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร และสาขา ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
- หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี
- หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี
- ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้า หรือของบริการ
- จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของ
- จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของ
สินค้าหรือของบริการอย่างชัดเจน
- วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี
ถามว่าทำไมเราต้องรู้ข้อมูลพวกนี้ ทุกวันนี้ก็ใช้โปรแกรมบัญชี ในการออกใบกำกับภาษีอยู่แล้ว แต่ต้องอย่าลืมนะครับว่า เราต้องตรวจสอบใบกำกับภาษีที่เราได้มาจากการซื้อสินค้า หรือรับบริการ เช่นกัน ผมจึงคิดว่ามันก็ยังเป็นเรื่องที่เรายังจำเป็นต้องรู้อยู่ โดยปกติ
- ผมจะเรียกใบกำกับภาษีที่เราออกให้ลูกค้าง่าย ๆ ว่า "ใบกำกับภาษีขาย" และ
- ใบกำกับภาษีที่เราได้รับจากการที่บริษัทเราไปซื้อสินค้า หรือรับบริการ ว่า "ใบกำกับภาษีซื้อ"
ซึ่งรูปร่างหน้าตา ของใบกำกับภาษีจะเป็นตามตัวอย่างดังรูป
- ผมจะเรียกใบกำกับภาษีที่เราออกให้ลูกค้าง่าย ๆ ว่า "ใบกำกับภาษีขาย" และ
- ใบกำกับภาษีที่เราได้รับจากการที่บริษัทเราไปซื้อสินค้า หรือรับบริการ ว่า "ใบกำกับภาษีซื้อ"
ซึ่งรูปร่างหน้าตา ของใบกำกับภาษีจะเป็นตามตัวอย่างดังรูป
พอทราบว่าใบกำกับภาษีที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร เราก็ต้องทราบอีกว่าความแตกต่างของวันที่ในการออกใบกำกับภาษีก็มีความแตกต่างกันเช่นกัน เพราะมันจะแบ่งลักษณะของประเภทธุรกิจออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ
- ธุรกิจขายสินค้า จะออกใบกำกับภาษี ณ วันที่เราส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้า โดยในใบกำกับภาษี
เราอาจจะระบุเพิ่มเติมจากคำว่า "ใบกำกับภาษี" เป็น "ใบส่งสินค้า/ใบกำกับภาษี" ก็ได้
- ธุรกิจขายสินค้า จะออกใบกำกับภาษี ณ วันที่เราส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้า โดยในใบกำกับภาษี
เราอาจจะระบุเพิ่มเติมจากคำว่า "ใบกำกับภาษี" เป็น "ใบส่งสินค้า/ใบกำกับภาษี" ก็ได้
- ธุรกิจให้บริการ จะออกใบกำกับภาษี ณ วันที่เราได้รับเงินค่าบริการซึ่งในใบกำกับภาษี เราอาจจะ
ระบุเพิ่มเติมจากคำว่า "ใบกำกับภาษี" เป็น "ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี" ก็ได้
ระบุเพิ่มเติมจากคำว่า "ใบกำกับภาษี" เป็น "ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี" ก็ได้
3. จัดทำรายงานตามที่กฏหมายกำหนด
3.1 รายงานภาษีซื้อ
คือ การรวบรวมใบกำกับภาษีซื้อ ที่สามารถใช้สิทธิ์ได้ มาสรุปเป็นรายงาน
3.2 รายงานภาษีขาย
คือ การรวบรวมใบกำกับภาษีขาย มาสรุปเป็นรายงาน
3.3 รายงานสินค้าและวัตถุดิบ
4. ยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม
นำรายงานภาษีขาย และภาษีซื้อที่จัดทำตามข้อ 3. มาสรุปเป็นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) ซึ่ง
- หากรายงานภาษีขาย > รายงานภาษีซื้อ = จะต้องนำส่งเงินส่วนต่างให้สรรพากร
- หากรายงานภาษีขาย < รายงานภาษีซื้อ = จะถือเป็นเครดิตภาษี สามารถขอคืนเป็นเงินสด หรือนำ
ไปหัก จากแบบภ.พ.30 ได้ในเดือนถัดไป
ตัวเครดิตภาษีจะสามารถสะสมไปได้เรื่อย ๆ จนกว่าที่เราจะใช้มันหมด แล้วจะหมดอย่างไร เครดิตภาษีจะหมดได้ ในรูปแบบนี้ครับ
ไปหัก จากแบบภ.พ.30 ได้ในเดือนถัดไป
ตัวเครดิตภาษีจะสามารถสะสมไปได้เรื่อย ๆ จนกว่าที่เราจะใช้มันหมด แล้วจะหมดอย่างไร เครดิตภาษีจะหมดได้ ในรูปแบบนี้ครับ
- รายงานภาษีขาย > รายงานภาษีซื้อ + เครดิตภาษี = นำส่งเงินส่วนต่างให้สรรพากร
- รายงานภาษีขาย < รายงานภาษีซื้อ + เครดิตภาษี = ยังคงถือเป็นเครดิตภาษีอยู่ครับ
กำหนดการในการยื่นแบบภ.พ.30 จะแบ่งเป็น เป็น 2 ส่วน ผมสรุปให้จำง่าย ๆ แบบนี้ว่า
- ยื่นกระดาษ (ยื่นเอกสารที่สรรพากร) จะต้องยื่นภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
- ยื่นผ่านระบบอิเลคทรอนิกส์ จะต้องยื่นภายในวันที่ 23 ของเดือนถัดไป
เริ่มเยอะแล้วใช่ไหมครับ สำหรับสิ่งที่ต้องทำหลังจาก เป็นผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่ม ยังครับ ยังไม่หมด เดี๋ยวเรามาคุยกันต่อในโอกาสต่อไป เพราะยังมีเรื่องของ
- ใบกำกับภาษีขาย (อย่างย่อ)
เริ่มเยอะแล้วใช่ไหมครับ สำหรับสิ่งที่ต้องทำหลังจาก เป็นผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่ม ยังครับ ยังไม่หมด เดี๋ยวเรามาคุยกันต่อในโอกาสต่อไป เพราะยังมีเรื่องของ
- ใบกำกับภาษีขาย (อย่างย่อ)
- ใบกำกับภาษีซื้อ (อันไหนใช้สิทธิ์ได้ / ไม่ได้)
- ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
- ประกันสังคม
เพราะ ไม่ว่าจะจดทะเบียนในรูปแบบบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล สิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวมา ต้องทำทั้ง 2 รูปแบบของกิจการครับ เพียงแต่ว่า รูปแบบบุคคลธรรมดา อาจจะตัดทอนบางส่วนไปได้ เช่นภาษีหัก ณ ทีจ่าย ที่จะทำแค่บางส่วนเท่านั้น
- ประกันสังคม
เพราะ ไม่ว่าจะจดทะเบียนในรูปแบบบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล สิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวมา ต้องทำทั้ง 2 รูปแบบของกิจการครับ เพียงแต่ว่า รูปแบบบุคคลธรรมดา อาจจะตัดทอนบางส่วนไปได้ เช่นภาษีหัก ณ ทีจ่าย ที่จะทำแค่บางส่วนเท่านั้น
รับทำบัญชี ตรวจสอบบัญชี จดทะเบียนบริษัท
สนใจปรึกษาฟรี ก่อนตัดสินใจ
ติดต่อ คุณทศพร
Tel. : 02-408-4215
Hotline : 081-616-1315
LINE ID : jt.accounting.office
Email : jtac24569@gmail.com
FB : www.facebook.com/jtaccount/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น